การเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศ และขั้นตอนการสมัคร
การเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศ
การเรียนต่อต่างประเทศเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่มีทักษะด้านภาษาที่ดี วิชาการใช้ได้ ต้องการเรียนเฉพาะด้านให้มีทักษะที่สูงขึ้น และช่วยทำให้ได้พบกับโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่กว่าจะไปถึงจุดที่ต้องการได้ ต้องผ่านการเตรียมตัวหลายด้าน เชื่อว่าข้อมูลเรื่องการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศนั้น หลายๆ คนยังไม่มีความรู้หรือรู้มาเพียงผิวเผิน ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจต่อการเตรียมตัวและยังไม่รู้ถึงขั้นตอนการสมัครที่ถูกต้อง วันนี้เรามีวิธีการเตรียมตัวและขั้นตอนการสมัครมาฝากค่ะ
การเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศ
- เตรียมเรียนภาษาเพื่อสอบไปเรียนต่อ
เมื่อต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศระดับปริญญาตรีและโท ก็ควรเตรียมเรื่องภาษาให้พร้อม ทางเลือกของการเตรียมภาษาซึ่งน้อง ๆ สามารถที่จะปรับภาษาในประเทศเจ้าของภาษาโดยทำการสมัครเรียนภาษาอังกฤษ โดยการที่เราได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ได้ใช้ภาษาตลอดเวลา ทำให้พัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็วมาก เพราะสภาพแวดล้อมถูกบังคับต้องใช้ภาษาตลอดเวลา สามารถไปปรับภาษาในต่างประเทศช่วงปิดเทอม หรือหลังจากสำเร็จการศึกษาได้ กรณีที่ยังศึกษาอยู่ก็ควรตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษแล้วฝึกฝนให้มีทักษะที่ดีอยู่เสมอ เพราะคุณจะต้องไปสอบเก็บคะแนน TOEFL และ IELTS เพื่อใช้คะแนนตรงนี้เสนอไปยังสถาบันการศึกษาที่เราต้องการเข้าเรียน โดยวิธีการสอบจะเน้นไปที่ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนที่ถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งคุณสามารถเลือกสอบอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตามที่ต้องการ - เก็บคะแนนวิชาอื่นๆ ให้ดีที่สุด
เมื่อเรื่องภาษาผ่านฉลุยก็ใช่ว่าวิชาอื่นจะละทิ้งได้ ยิ่งถ้าคุณไปเรียนต่อสาขาวิชาอื่น คุณก็ต้องเตรียมเกรดดีๆ ของทุกวิชาไปด้วย เพราะสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งจะมีการกำหนดเกรดเฉลี่ยของผู้สมัคร บางประเทศกำหนดไว้สูงถึง 3.80 แต่บางประเทศแค่ 3.50 เท่านั้น ผู้ที่ต้องการไปเรียนต่อจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจต่อทุกวิชาของตัวเองให้มาก - เอกสารสำคัญเตรียมให้พร้อม
อีกหนึ่งเรื่องที่มักเป็นปัญหาให้ผู้เตรียมตัวไปเรียนต่อเกือบทุกปี คือ การเตรียมเอกสารสำคัญและจำเป็นต่อการไปเรียนต่อ ไม่ว่าคุณจะขอทุนการศึกษาหรือไปด้วยทุนตัวเอง ก็ควรเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อม คือ- ใบแสดงผลการเรียนหรือใบเกรด เอกสารสำคัญทางการเรียนที่จะช่วยบ่งบอกถึงระดับคะแนนที่เรียนมาทั้งเทอม ใบนี้ทางโรงเรียนจะออกให้ในชื่อ ปพ.1
- ใบรับรองจบการศึกษาจากโรงเรียนหรือสถาบันที่คุณเรียนอยู่ เพื่อเป็นการรับรองว่าคุณเรียนจบอย่างถูกต้องมาจากโรงเรียนนี้จริง
- สูติบัตรที่ระบุวัน เดือน ปีเกิดของผู้สมัครเรียนอย่างถูกต้อง และมีการระบุชื่อบิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่ตรงกับทะเบียนบ้าน พร้อมดูไปถึงเรื่องของสัญชาติอีกด้วย
- ทะเบียนบ้านหน้าแรกและหน้าที่เป็นชื่อของเราเท่านั้น
- หนังสือเดินทางที่มีการติดรูป ระบุชื่อ-นามสกุล และสัญชาติที่ชัดเจน แต่ถ้าวันนั้นคุณยังไม่ได้ทำก็สามารถใช้เป็นสำเนาบัตรประชาชนแทนได้
- ทำพอร์ตฟอลิโอที่มีใบประกาศนียบัตรต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษ และการได้เข้าร่วมทำกิจกรรมกับสังคม เพื่อให้เป็นหนึ่งในตัวช่วยพิจารณาของทางสถาบันที่เราสมัครไว้
เอกสารทั้งหมดนี้คุณจะต้องเตรียมไว้ 2 ชุด ชุดแรกเป็นเอกสารภาษาไทยตามปกติ และชุดที่ 2 เป็นเอกสารภาษาอังกฤษที่ต้องผ่านการแปลมาแล้วเป็นอย่างดี ในส่วนนี้ถ้าไม่มั่นใจก็ TSAB เป็นผู้แปล
ขั้นตอนการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ
- TSAB แนะนำสถาบันที่เหมาะสม สมัครเรียนผ่านสถาบันพัฒนาภาษาที่มีความน่าเชื่อถือได้ โดยในขั้นตอนแรกจะมีการสอบถามเรื่องประเทศ เมือง งบประมาณ เจ้าหน้าที่ทำการแนะนำสถาบันการศึกษาที่ต้องการไปเรียนต่อ การเดินทาง และงบประมาณของการไปศึกษาต่อ เพื่อทำความเข้าใจกันและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สมัครมากขึ้น
- เมื่อพูดคุยทำความเข้าใจต่อทุกเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถยื่นเอกสารที่เตรียมมาให้กับทางสถาบันได้เลย
- ทางสถาบันพัฒนาภาษาจะมีการตรวจสอบเอกสารที่ผู้สมัครส่งมา ในส่วนนี้ถ้ามีเอกสารใดขาดไป TSAB ก็จะทำการแจ้งไปทางผู้สมัครทันที และมีการแนะนำวิธีการทำวีซ่าเพื่อให้ผู้สมัครได้ผ่านเกณฑ์ของประเทศนั้นๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- ชำระค่าทำวีซ่า, ค่าเล่าเรียน, ค่าเดินทาง, ค่าประกัน, ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการไปเรียนต่อล่วงหน้ากับทางสถาบันพัฒนาภาษาที่คุณสมัครไว้ให้เรียบร้อย ส่วนนี้จะมีการออกใบชำระค่าใช้จ่ายที่ระบุไว้อย่างชัดเจนและครบถ้วน
- เข้ารับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อนำใบรับรองแพทย์ไปยืนยันการเข้าประเทศ
- เอกสารและการสมัครทั้งหมด TSAB จะเป็นผู้ดำเนินการให้
เมื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการเรียนและเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่เตรียมตัวและเตรียมใจของผู้สมัครให้ดี เพราะการเดินทางครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จึงควรเตรียมเสื้อผ้า, ยารักษาโรค, ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น และเบอร์ติดต่อในยามฉุกเฉินหลากหลายเบอร์ไว้ เมื่อถึงเวลาจะได้เดินทางไปศึกษาต่อได้อย่างอุ่นใจ