รีวิว Explore Australia with TSAB 2020 #เดินดุ่มๆที่แอดิเลด
TSAB Review 2020 #เดินดุ่มๆที่แอดิเลด :
“ส่องเมืองแอดิเลด เมืองที่หลายคนมองข้าม”
Adelaide แอดิเลด เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปที่พี่ขวัญได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่แอดิเลด แต่จะมีเวลาว่างแค่ 1 วันเท่านั้นค่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าชื่อรีวิวนี้มาจากการที่ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวอะไรเท่าไหร่ เมื่อมาถึงที่นี่ก็เดินดุ่มๆตามแผนที่ รีวิวนี้จึงเป็นรีวิวสั้นๆเน้นสถานที่สำคัญในเมืองแอดิเลด และเก็บบรรยากาศในเมืองมาฝากกันค่ะ
สำหรับเมืองอดิเลดนี้หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย แต่อาจจะยัง ไม่รู้จักมากเท่าไหร่ วันนี้พี่ขวัญก็เลยถือโอกาสพาเที่ยวชมให้เพื่อนๆ ได้รู้จักอดิเลดกันมากขึ้นค่ะ
SHOPPING
วันนี้เราเริ่มต้นจากถนนสาย Shopping ศูนย์กลางห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองที่มีชื่อว่า Rundle Mall ค่ะ ถนนสายนี้ถูกเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 1976 ค่ะ และถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางเมืองอดิเลดเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีสถานีแทรมตั้งอยู่ด้านหน้าถนน ชื่อว่าสถานี Rundle Mall และเมื่อหันหน้าเข้ามาจะพบกับอาคารทรงแปลกตา อาคารนี้เรียกว่า Beehive Corner ค่ะ อาคารนี้เป็นอาคารเก่าแก่ สร้างเสร็จในปี 1986 อาคารตั้งอยู่บนหัวมุม ระหว่าง King William Street และ Rundle Street ค่ะ
ร้านช็อคโกแลต 100 ปี
ด้านล่างของตึกเราจะพบกับ ร้าน Haigh’s Chocolates ซึ่งเป็นร้านชอคโกแลตชื่อดังของออสเตรเลีย มีอายุร้อยกว่าปี และมีต้นกำเนิดจากที่เมืองนี้ค่ะ
ร้านนี้ถูกก่อตั้งโดย Alfred E. Haigh ในช่วง ปี 1915 แต่หลังจากนั้นไม่นาน John Haigh ผู้ซึ่งเป็นหลานก็ได้มีความต้องการอยากจะขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น เขาจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปเรียนรู้วิธีการทำอุตสาหกรรมชอคโกแลตกับ บริษัท Lindt และ Sprüngli ที่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จากเขานั้นก็ได้นำความรู้ใหม่ๆกลับมายังออสเตรเลีย ซึ่งก็ทำให้ร้าน Haigh’s Chocolates เป็นที่รู้จัก และได้ขยายสาขาในหลายเมืองของออสเตรเลียค่ะ
จากนั้นเมื่อเราเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ ตามถนนคนเดิน ที่นี่ก็เหมือนถนนช้อปปิ้งในเมืองอื่นๆเลยค่ะ มีห้าง ร้านค้าเยอะมากพอสมควรค่ะ ไม่ว่าจะเป็น David Jones , Myer , Rundle Mall Plaza , K mart , Rundle Place หรือ ซุปเปอร์มาเก็ตอย่าง Coles , Woolworths ในทุกวันก็จะมีพวกนักดนตรีเปิดหมวก หรือโชว์การแสดงค่ะ
และตรงข้ามกับห้าง David Jones ก็คือโรงละคร Regent ซึ่งได้รับการอธิบายว่าเป็นหนึ่งในโรงภาพยนตร์ที่สวยงามและหรูหราที่สุดในยุคหนึ่ง เป็นโรงภาพยนตร์ในสไตล์สเปน – โมรอคโคค่ะ
Heritage Building
และเมื่อเราเดินเข้ามาตามถนนคนเดินเรื่อยๆ ก็จะเจอน้ำพุ The Rundle Mall Fountain อยู่ด้านหน้าของอาคาร Adelaide Arcade ซึ่งเป็น Heritage Building ค่ะ อาคารนี้เคยถูกไฟไหม้มาก่อนค่ะ แต่ก็มีการบูรณะกลับมาได้อย่างสวยงาม
เดินเล่นกันพอสมควร เราจะเดินทางไปยังตลาด Adelaide central market จริงๆแล้วจาก Rundle Mall เราสามารถนั่งแทรมฟรีไปลง สถานี Victoria Square ได้ค่ะ แต่เนื่องจากพี่ขวัญอยากใช้เวลาเดินชมเมืองสักหน่อยจึงใช้วิธีเดินไปค่ะ ระยะทางประมาณ 1 กม. ค่ะ ระหว่างทางก็จะพบกับตึกสวยๆได้ตลอดทาง
FREE TRAM
ว่ากันด้วยเรื่องฟรีแทรมสักหน่อย จากที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นว่าเมืองแอดิเลดนี้ได้รับสมญานามว่า ลิตเติล เมลเบรินค่ะ เพราะที่นี่มีความคล้ายคลึงกันมากที่เดียวอย่างเช่น การที่มีฟรีแทรม (รถราง) แต่สิ่งที่แตกต่างน่าจะเป็นจำนวนประชากรที่ยังน้อย บรรยากาศสบายๆ ไม่แออัด ค่าครองชีพที่ถูกกว่าเมืองเมลเบิรนค่ะ และที่แอดิเลดนี้ก็มีฟรีแทรมโซนในเมืองเหมือนที่เมลเบิรนเลยนะคะ
Adelaide central market ตลาดในร่มที่ใหญ่ที่สุดใน เซาท์ออสเตรเลีย
เดินถ่ายรูปอยู่นานเราก็มาถึงตลาดแล้วค่ะ ตลาดกลางอดิเลด หรือ Adelaide central market เป็นตลาดในร่มค่ะ จะมีเวลาเปิดปิด ซึ่งตลาดจะปิดทุกวันจันทร์ค่ะ ใครจะมาต้องดูวันเวลาดีๆนะคะ ด้านในตลาดจะเน้นเป็นของสด พืชผัก ผลไม้ ร้านกาแฟ ร้านไวน์ ชีส แฮม ถั่วค่ะ อ๋อลืมบอกไป ของขึ้นชื่อของรัฐ South Australia อีกอย่างนึงก็คือ ไวน์ค่ะ ไวน์ที่นี่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากๆ ซึ่งจะเป็นไวน์อะไรไม่ได้นอกจากไวน์ Penfolds ค่ะ ทำชื่อเสียงให้กับทางรัฐมากๆ
ตลาดนี้เดิมชื่อว่า City Market ตั้งบน Grote Street เริ่มทำการในปี 1869 ค่ะ จากนั้นก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นตึกอิฐสีแดง และได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Adelaide central market ในปี 1966 เป็นต้นมา
Adelaide central market
Address: 44-60 Gouger St, Adelaide SA 5000, Australia
Adelaide Chinatown ไชนาทาวน์
พี่ขวัญเดินเล่น ชิมขนม ในตลาดสักพักก็หิวขึ้นมาค่ะ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าบริเวณใกล้ๆนี้มีไชน่าทาวน์ด้วยค่ะ ว่าแล้วก็เดินตรงดิ่งไปยังไชน่าทาวน์เลยค่ะ ที่นี่จะเรียก Adelaide Chinatown หรือ Moonta Street Chinatown
โยเกิร์ตข้าวเหนียว
เข้ามาด้านในก็จะพบกับร้านค้าหลายร้ายค่ะ อากาศวันนี้ร้อนพอสมควรค่ะ เลยขอแวะซื้อโยเกิรตของขึ้นชื่อของออสเตรเลียก่อนค่ะ
จากนั้นพี่ขวัญก็เดินสำรวจบริเวณไชน่าทาวน์กันค่ะ
เมื่อเข้ามาใน China Town Plaza ก็จะเป็นฟูดคอร์ท ขายอาหารค่ะ เลยจัดร้านติ่มซำสักหน่อยค่ะ แต่พอชิมแล้วรสชาติยังเฉยๆค่ะ เดี๋ยวลองร้านอื่นๆบ้าง
ในบริเวณไชน่าทาวน์ อดิเลดนี้มาร้านอาหารเอเชียเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น Hotpot ติ่มซำ อาหารเวียดนาม บะหมี่ฮ่องกง อาหารมาเลซีย อาหารไทยค่ะ แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือร้านชานมไข่มุก โยเกิรต และร้านขายของเอเชียค่ะ
Adelaide Chinatown
18 Moonta St, Adelaide SA 5000, Australia
Graffiti Art
เดินเล่นอยู่นานสองนานก็ยังไม่ถูกใจ แล้วก็อยากกินอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาค่ะ จึงลองเสิร์ชหาร้านดู ก็เจอร้าน Sushi Train ค่ะ จะรออะไรจัดไปค่ะ การเดินทางไปค่ะ นั่งบัสจาก Grote St ลง King William แค่สองป้ายค่ะ หรือจะใช้แทรมฟรีเพื่อย่นระยะทางก็ได้เช่นกันค่ะ ขึ้นที่ สถานี Victoria Square ลงสถานี Pirie St แล้วก็เดินอีกนิดหน่อยค่ะ หรือจะเดินแบบพี่ขวัญก็ได้ค่ะประมาณ 1 กม. แต่ตอนเดินไปเราใช้อีกเส้นทาง คือกะเดินไปเรื่อยๆค่ะ ระหว่างทางก็พบกับอีกสิ่งนึงที่คล้ายกับเมลเบิร์นก็คือ Street Art หรือ Graffiti Art ค่ะ
ร้านอาหาร ร้านกาแฟริมถนน ระหว่างทาง
เดินทางมาเพลินๆก็ถึงร้าน Sushi Train ค่ะ ได้ทานสมใจ ร้านนี้เป็นซูชิจานหมุน บรรยากาศญี่ปุ่นมากๆ รสชาติดีทีเดียวค่ะ
Sushi Train Grenfell
19 Grenfell St, Adelaide SA 5000, Australia
ชิลย่านมหาลัย Art Gallery
อิ่มท้องแล้วเรียบร้อยเราก็จะเดินต่อไปยังย่านมหาวิทยาลัย และพิพิธภัณฑ์ ค่ะ ซึ่งสามารถนั่งแทรมฟรีมา ลงสถานี Art Gallery ได้ค่ะ ย่านนี้เป็นย่านที่ตั้งของหลายมหาวิทยาลัย เช่นThe University of Adelaide, University of South Australia และมีห้องสมุด State Library of South Australia มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง Migration Museum และ Art Gallery of South Australia ค่ะ ซึ่งถ้าต้องการเดินบริเวณนี้ให้ครบน่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 1 วันแน่ๆค่ะ พี่ขวัญจึงเก็บภาพบรรยากาศรวมๆมาฝากค่ะ
ไวน์ Penfolds
หมดไปอีกหนึ่งทริปกับรีวิวเดินดุ่มๆที่อดิเลดค่ะ พี่ขวัญขอทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศกับไวน์ Penfolds ที่สนามบินแอดิเลด ที่เพิ่งเปิดทำการเป็นวันแรก (วันที่บันทึกภาพ ปลายเดือน กพ 2020)
สุดท้ายนี้ พี่ขวัญว่าเมืองแอดิเลดมีความคูลอยู่ไม่น้อยค่ะ และมีความคล้ายคลึงกับเมืองเมลเบิร์น ซึ่งหลายๆคนที่ย้ายมาอยู่ที่นี่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แอดิเลดเหมือนเมลเบิร์นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือคนไม่เยอะ อากาศบริสุทธ์ ทะเลสวยงามและสะอาด มีความชิคและคูลอย่างลงตัว และยังเป็นเมืองที่ยังเปิดโอกาสให้กับคนต่างชาติที่ต้องการมาอยู่ที่นี่ พี่ขวัญหวังว่ารีวิวนี้จะทำให้น้องๆได้รู้จักกับเมือง แอดิเลดมากขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ
น้องๆ ที่สนใจเรียนต่อแอดิเลด ปรึกษาพี่ๆ TSAB ได้เลยนะ โปรโมชั่นข้อมูลเจาะลึกจากประสบการณ์จริง