ข้อมูลประเทศเยอรมัน
เยอรมนี (อังกฤษ: Germany; เยอรมัน: Deutschland) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (อังกฤษ: Federal Republic of Germany; เยอรมัน: Bundesrepublik Deutschland) เป็นประเทศที่มีการปกครองแบบสหพันธ์สาธารณรัฐแบบมีรัฐธรรมนูญในทวีปยุโรปตอนกลาง โดยเป็นการรวมตัวของรัฐทั้งหมด 16 รัฐ ประเทศนี้มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเชิงเสรีภาพและรัฐสวัสดิการ พรมแดนทางทิศเหนือติดทะเลเหนือ เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกติดโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ทิศใต้ติดออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ทิศตะวันตกติดฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ของประเทศคือเบอร์ลิน เยอรมนีมีประชากรประมาณ 80 ล้านคนและเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นประชากรสูงสุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีคนย้ายถิ่นมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก
เยอรมนีเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและยังก่อตั้งสหภาพการเงินกับสมาชิกในสหภาพยุโรปอีก 17 ประเทศ โดยใช้ชื่อว่ายูโรโซน เยอรมนีเป็นสมาชิกของกลุ่ม UNO, OECD, NATO, G7 และ G20 เยอรมนีเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆในยุโรปและเป็นประเทศที่มีความสามารถที่จะแข่งขันในระดับโลก
หากวัดจากผลผลิตมวลรวมภายในประเทศแบบปกติแล้ว เยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก
ข้อมูลทั่วไป
- การปกครอง : สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
- พื้นที่ : 357,000 กิโลเมตร
- จำนวนประชากร : 82 ล้านคน
- เมืองหลวง : เบอลิน (ประชากร 3.4 ล้านคน)
- ประชากร และเชื้อชาติ : เยอรมัน 91.5%, ตุรกี 2.4% ปัจจุบันประเทศเยอรมันเปิดต้อนรับผู้ลี้ภัยจากประเทศยูโกสโลเวีย
- ภาษาราชการ : ภาษาเยอรมัน
- ศาสนา : โปรเตสแตนต์ 38%, คาทอลิก34%, มุสลิม1.7%
- ระบบการเมือง : สหพันธ์(16 ประเทศ), ระบบรัฐสภา, สมาชิกสหภาพยุโรป
รัฐต่าง ๆ ในประเทศเยอรมนี
เยอรมนีประกอบด้วย 16 รัฐ ซึ่งมีความรับผิดชอบการบริหารรัฐของตนเองและบางส่วนก็มีขนบธรรมเนียมอันยาวนาน เยอรมนีถูกแบ่งแยกเป็นรัฐต่าง ๆ มาโดยตลอด ดังนั้นแผนที่จึงมักมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่เสมอเช่นกัน ในหลายศตวรรษที่ผ่านมาบรรดารัฐของสหพันธ์ฯ ในปัจจุบัน ถือกำเนิดมาหลัง พ.ศ. 2488 ทั้งสิ้น ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความเป็นเอกภาพของเผ่าพันธ์ และการกำหนดเส้นชายแดนเชิงประวัติศาสตร์
ระบบการศึกษา
การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 6-18 ปี รวมการศึกษาภาคบังคับทั้งหมด 12 ปี ซึ่งนักเรียนจำเป็นต้องเรียนหลักสูตรภาคบังคับแบบเต็มเวลานี้อย่างน้อย 9 ปี (ในบางรัฐ 10 ปี) หลังจากนั้นนักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรสายอาชีพหรือฝึกงาน ซึ่งเป็นการเรียนแบบไม่เต็มเวลาได้
เรียนภาษาเยอรมัน
ประโยชน์ที่จะได้รับกจากการเรียนภาษาเยอรมัน ในประเทศเจ้าของภาษาก็คือ ได้เรียนรู้และพัฒนาภาษา ควบคู่ไปกับการได้ท่องเที่ยวพักผ่อน ภาษาเยอรมันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าเป็นภาษาหลักที่พูดในหลายประเทศในยุโรปนอกจากประเทศเยอรมันเองแล้ว ก็พูดเยอรมันในประเทศออสเตรีย และสวิสเซอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน
การเรียนกับเราที่แฟรงก์เฟิร์ต หรือดุสเซลดอฟ คุณจะได้เรียนภาษาเยอรมันอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการได้พักผ่อนในวันหยุด คุณจะได้ทำความรู้จักกับคนท้องถิ่น ได้ฝึกภาษาและเรียนรู้วิธีชีวิต และวัฒนธรรมไปพร้อมๆกัน
ทำไมเลือกเรียนภาษาเยอรมัน?
การเรียนภาษาเยอรมันมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง ลองมาค้นหาคำตอบด้วยตัวคุณเองดูสิ ภาษาเยอรมันเป็นหนึ่งในภาษาที่สำคัญทางการเมือง และธุรกิจ และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทางด้านงานค้นคว้าวิจัย กคุณจะได้ฝึกฝนภาษาเยอรมันในชีวิตประจำวันในประเทศเยอรมันนี ได้มีโอกาสไปเยี่มมชมศูนย์กลางทางการเงินของแฟรงก์เฟิร์ต หรือเมืองน่ารักอย่างดุสเซลดอฟ
ในช่วงการเรียนคุณก็จะพัฒนาทักษะทางภาษา ได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิธีคิด ความเชื่อ และอัธยาศรัยไมตรีของคนเยอรมัน ได้พบปะกับคนท้องถิ่นในขณะที่นั่งดื่มอยู่ในลานเบียร์ หรือขณะไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่มีประวัติศาสตร์ให้เรียนรู้มากมาย
นอกจากได้เรียนรู้ทั้งภาษาและวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังเป็นช่วงเวลาวันหยุดที่น่าประทับใจอีกด้วย
ทำงาน
วีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้ 120 วันสำหรับการทำงานแบบเต็มวัน หรือ 240 วันสำหรับการทำงานครึ่งวัน ต่อ 1 ปี
คุณสมบัติทางภาษาเมื่อต้องการเข้าเรียนฯ
หลักสูตรของ เยอรมัน
ด้วยภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนคือภาษาเยอรมัน ผู้เข้าศึกษาจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ ภาษาเยอรมัน ซึ่งเรียกว่า DSH ซึ่งทางมหาวทิยาลัยในเยอรมันเป็นผู้จัดสอบ ส่วนการสอบ TestDaF (เทียบเท่ากับ TOEFL ของภาษาอังกฤษ) สามารถสอบในประเทศไทยได้ ข้อสอบเรียนต่อต่างประเทศ
หลักสูตรนานาชาติ (International Degree )
เป็นหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ผู้เข้าศึกษาจะต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ TOEFL 550 หรือสอบ IELTS ระดับ6.0 ผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรนานาชาติส่วนใหญ่แม้ไม่ได้ใช้ภาษาเยอรมันในการเรียน แต่มหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้เรียนในบางสาขาวิชา สถาบันนานาชาติจะมีการสอนภาษาเยอรมันเสริม เพื่อให้นักศึกษาทุกคนได้เพิ่มพูน ความรู้ภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรมของเยอรมันควบคู่ไปกับการเรียนด้วย
การประกันสุขภาพ
สำหรับนักศึกษาต่างชาติ นักศึกษาทุกคนต้องมีประกันสุขภาพ
ทุนการศึกษา
นักศึกษาทุกคนที่เรียนในสถาบันของรัฐเสมือนว่าได้รับทุนการ ศึกษาส่วนหนึ่ง นักศึกษาอาจจะจัดสรรเวลาทำงานได้แต่ต้องพึงระวังที่จะไม่ ให้เสียการเรียน สำหรับนักศึกษาจากกลุ่มประเทศนอกสหภาพยุโรปรวมทั้งนักศึกษาไทย จะได้รับอนุญาตให้ทำงานเพียงปีละ 3 เดือนระหว่างปิดภาคเรียน
จากสนามบินสู่เมืองแฟรงเฟริต
สนามบินแฟรงเฟริตนั้นตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 12 กิโลเมตรจากตัวเมือง ซึ่งจากสนามบินคุณสามารถเดินทางมายังเมืองแฟรงเฟริตได้โดยง่าย โดยเลือกใช้บริการของ รถไฟ, รถบัส หรือรถแท็กซี่
- รถไฟ มีสถานีรถไฟบริการจากสนามบินถีง 2 สถานี ซึ่งจากตรงนี้คุณสามารถเลือกนั่งรถไฟท้องที่(RE,RB) หรือรถไฟสายS8 และ S9 โดยมีจุดหมายที่ Frankfurt(Main) Hauptbahnhofซึ่งรถไฟสายเดียวกันนี้ก็ยังสามารถเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น Offenbach, Hanau, Russelsheim, Mainz และ Wiesbadenค่าโดยสารเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ประมาณ 3.70 ยูโร จาก Hauptbahnhof คุณสามารถเดินทางมายังสถาบันของเราได้โดยนั่งรถ Tram สาย 16 เส้นทางสู่ Offenbach และลงที่ถนน Gartenstrasse
- รถบัส รถบัสจะเดินทางออกจากอาคารผู้โดยสาร 1 ในส่วนของขาเข้า และ อาคารผู้โดยสาร 2 ทั้งส่วนขาเข้า และขาออกซึ่งจากอาคารผู้โดยสาร 1 คุณสามารถนั่งรถบัสสาย 61 มุ่งสู่สถานี Frankfurt Sudbahnhof ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้สถาบันมากที่สุด
- รถแท็กซี่ หากคุณใช้บริการรถแท็กซี่ คุณจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเดินทาง ค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 25 ยูโร
เดินทางรอบเมือง
วิธีเดินทางรอบเมืองแฟรงก์เฟิร์ตให้เร็วและถูกที่สุด คือใช้บริการรถสาธารณะ ทั้งรถไฟใต้ดิน รถราง และ รถเมล์ รวมทั้งสามารถเดินทางไปรอบนอกเมืองได้ด้วย S-Bahn และรถไฟ สำหรับแท็กซี่มีราคาสูงอยู่หน่อย และเรียกได้จากริมถนนเลย อีกตัวเลือกหนึ่งคือ เช่ารถ ฟรือแม้แต่เช่าจักรยาน หากสถานที่ๆจะเดินทางไปไม่ไกลนัก
อากาศในแฟรงก์เฟิร์ต
ที่แฟรงก์เฟิร์ตอากาศค่อนข้างชื้น มีฝนตกตลอดทั้งปี ช่วงหน้าร้อนอากาศอบอุ่นและมีฝนในบางวัน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 32 degrees Celsius (50 – 90 degrees Fahrenheit)
เดือนที่ร้อนที่สุดคือ กรกฎาคม เสื้อผ้าบางเบาเหมาะสุดในช่วงนี้ และควรมีเสื้อกันฝนติดไว้ด้วย
หน้าหนาว มีเมฆหนาทึบ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -10 ถึง 10 degrees Celsius (14 – 40 degrees Fahrenheit) เสื้อกันฝน และ เสื้อผ้าอุ่นๆ จำเป็นต้องมีในช่วงนี้
เดือนที่มีอากาศเย็นจัดที่สุดในรอบปี คือเดือน มกราคม
ค่าครองชีพ
ข้อมูลด้านล่างเป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของราคาอาหาร และห้องพักในประเทศเยอรมัน
- ร้านอาหารธรรมดา : 6-12 ยูโร
- ภัตตาคาร : 17-22 ยูโร
- ภัตตาคารแบบแพง : 22-45 ยูโร
- โรงแรม : 50-100 ยูโร (ห้องคู่)
นอกเหนื่อจากด้านบน คุณยังสามารถหาร้านแบบฟาสฟู้ดส์ได้ทั่วไป เช่น เคบับ, ขนมปังกับไส้กรอก, ไส้กรอกผงกระหรี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย ในราคาย่อมเยา เนื่องจากว่าประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่หลากหลายด้านวัฒนธรรม ดังนั้นหากคุณเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย คุณก็สามารถหาอาหารอิตาลี, จีน, ญี่ปุ่น ได้อย่างไม่ยาก
การทิป
เงินค่าทิปนั้นจะเก็บรวมไปกับบิลแล้ว แต่หากคุณอยากจะทิ้งเงินเล็กน้อยไว้บนโต๊ะเป็นสินน้ำใจ ก็นับเป็นสิ่งที่ดี